เว็บเบราว์เซอร์และโปรแกรมค้นหา
วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558
การสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต
การค้นหาข้อมูลมีกี่วิธี
?
การค้นหาในรูปแบบ
Search
Engine
****
ข้อแตกต่างระหว่าง
Index
และ Search
Engine
ประเภทของ
Search Engine
Search
Engine แต่ละแห่งมีวิธีการและการจัดเก็บฐานข้อมูลที่แตกต่างกันไปตามประเภทของ
Search
Engine ที่แต่ละเว็บไซต์นำมาใช้เก็บรวบรวมข้อมูล
ดังนั้นการที่คุณจะเข้าไปหาข้อมูลหรือเว็บไซต์ โดยวิธีการ Search
นั้น
อย่างน้อยคุณจะต้องทราบว่า เว็บไซต์ที่คุณเข้าไปใช้บริการ ใช้วิธีการหรือ ประเภทของ
Search
Engine อะไร
เนื่องจากแต่ละประเภทมีความละเอียดในการจัดเก็บข้อมูลต่างกันไป
ที่นี้เราลองมาดูซิว่า Search
Engine ประเภทใดที่เหมาะกับการค้นหาข้อมูลของคุณ
1.
Keyword
Index เป็นการค้นหาข้อมูล
โดยการค้นจากข้อความในเว็บเพจที่ได้ผ่านการสำรวจมาแล้ว จะอ่านข้อความ ข้อมูล
อย่างน้อยๆ ก็ประมาณ 200-300
ตัวอักษรแรกของเว็บเพจนั้นๆ
โดยการอ่านนี้จะหมายรวมไปถึงอ่านข้อความที่อยู่ในโครงสร้างภาษา HTML
ซึ่งอยู่ในรูปแบบของข้อความที่อยู่ในคำสั่ง
alt
ซึ่งเป็นคำสั่งภายใน
TAG
คำสังของรูปภาพ
แต่จะไม่นำคำสั่งของ TAG
อื่นๆ
ในภาษา HTML
และคำสั่งในภาษา
JAVA
มาใช้ในการค้นหา
วิธีการค้นหาของ Search
Engine ประเภทนี้จะให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับข้อมูลก่อน-หลัง
และความถี่ในการนำเสนอข้อมูลนั้น การค้นหาข้อมูล
โดยวิธีการเช่นนี้จะมีความรวดเร็วมาก
แต่มีความละเอียดในการจัดแยกหมวดหมู่ของข้อมูลค่อนข้างน้อย
เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงรายละเอียดของเนื้อหาเท่าที่ควร
แต่หากว่าคุณต้องการแนวทางด้านกว้างของข้อมูล และความรวดเร็วในการค้นหา
วิธีการนี้ก็ใช้ได้ผลดี
2. Subject Directories การจำแนกหมวดหมู่ข้อมูล
Search
Engine ประเภทนี้
จะจัดแบ่งโดยการวิเคราะห์เนื้อหา รายละเอียด ของแต่ละเว็บเพจ
ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร โดยการจัดแบ่งแบบนี้จะใช้แรงงานคนในการพิจารณาเว็บเพจ
ซึ่งทำให้การจัดหมวดหมู่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนจัดหมวดหมู่แต่ละคนว่าจะจัดเก็บข้อมูลนั้นๆ
อยู่ในเครือข่ายข้อมูลอะไร ดังนั้นฐานข้อมูลของ Search
Engine ประเภทนี้จะถูกจัดแบ่งตามเนื้อหาก่อน
แล้วจึงนำมาเป็นฐานข้อมูลในการค้นหาต่อไป
การค้นหาค่อนข้างจะตรงกับความต้องการของผู้ใช้ และมีความถูกต้องในการค้นหาสูง
เป็นต้นว่า หากเราต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์
หรือเว็บเพจที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ Search
Engine ก็จะประมวลผลรายชื่อเว็บไซต์
หรือเว็บเพจที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ล้วนๆ มาให้คุณ
3. Metasearch Engines จุดเด่นของการค้นหาด้วยวิธีการนี้
คือ สามารถเชื่อมโยงไปยัง Search
Engine ประเภทอื่นๆ
และยังมีความหลากหลายของข้อมูล แต่การค้นหาด้วยวิธีนี้มีจุดด้อย คือ
วิธีการนี้จะไม่ให้ความสำคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษร และมักจะผ่านเลยคำประเภท
Natural
Language (ภาษาพูด)
ดังนั้น หากคุณจะใช้ Search
Engine แบบนี้ละก็
ขอให้ตระหนักถึงข้อบกพร่องเหล่านี้ด้วย
หลักการค้นหาข้อมูลของ
Search
Enine
สำหรับหลักในการค้นหาข้อมูลของ
Search
Engine แต่ละตัวจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป
ขึ้นอยู่กับว่าทางศูนย์บริการต้องการจะเก็บข้อมูลแบบไหน
แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีกลไกใน
การค้นหาที่ใกล้เคียงกัน
หากจะแตกต่างก็คงจะเป็นเรื่องประสิทธิภาพเสียมากกว่า
ว่าจะมีข้อมูล
เก็บรวบรวมไว้อยู่ในฐานข้อมูลมากน้อยขนาดไหน
และพอจะนำเอาออกมาบริการให้กับผู้ใช้
ได้ตรงตามความต้องการหรือเปล่า
ซึ่งลักษณะของปัจจัยที่ใช้ค้นหาโดยหลักๆจะมีดังนี้
***เทคนิค
11
ประการที่ควรรู้ในการค้นหาข้อมูล
9.หลีก
เลี่ยงการใช้ตัวเลข
พยายามเลี่ยงการใช้คำค้นหาที่เป็นคำเดี่ยวๆ
หรือเป็นคำที่มีตัวเลขปน
แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ คุณก็อย่าลืมใส่เครื่องหมายคำพูด
("
")
ลงไปด้วย
เช่น "windows
98"
10.
หลีก
เลี่ยงภาษาพูด
หลีกเลี่ยงคำประเภท
Natural
Language หรือเรียกง่ายๆ
ว่าคำหรือข้อความที่เป็นภาษาพูด
หรือเป็นประโยค คุณควรสรุปเป็นเพียงกลุ่มคำหรือวลี
ที่มีความหมายรวมทั้งหมดไว้ Advanced Search
อย่าลืมที่จะใช้
Advanced
Search เพราะจะมีส่วนช่วยคุณได้มาก
ในการบีบประเด็นหัวข้อ ให้แคบลง ซึ่งจะทำให้คุณได้รายชื่อเว็บไซต์
ที่ตรงกับความต้องการของคุณมากขึ้น
ซอฟแวร์ที่จำเป็นสำหรับใช้งานบนระบบอินเตอร์เน็ต
ซอฟแวร์ที่จำเป็นสำหรับใช้งานบนระบบอินเตอร์เน็ต
1.โปรแกรมระบบปฎิบัติการ(Operating System)เป็นโปรแกรมที่สำคัญมากสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง เพราะจะทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วง ให้ทำงานอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ โดยเป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ปัจจุบัน โปรแกรมระบบปฏิบัติที่นิยมใช้ได้แก่ Microsoft Windows ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตั้งแต่ Windows 95, Windows 98, Windows ME และ Windows XP หรือซอฟท์แวร์ประเภท Shareware เช่น Linux ก็ใช้ได้เช่นเดียวกัน
2. โปรแกรมเว็บบราวเซอร์ (Web Browser) ถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการเรียกดูข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โปรแกรมเว็บบราวเซอร์ จะทำหน้าที่ในการแปลภาษาที่ใช้เขียนเว็บไซต์ ซึ่งได้แก่ภาษา HTML และ JAVA มาแสดงผลที่จอภาพได้ ให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต สามารถดูข้อมูลในรูปข้อความ และกราฟฟิก ได้ ปัจจุบันมีโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ (Web Browser) มากมายที่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตสามารถเลือกใช้ได้ เช่น Internet Explorer, Netscape Communicator, Opera, MSN Browser, Neo Planet เป็นต้น

3. โปรแกรมรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) โปรแกรมรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) เป็นโปรแกรมที่ใช้งานสำหรับการส่งจดหมายทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันมีหลายเว็บไซต์ที่ให้บริการฟรี โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมเหล่านี้ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ ของตนเอง เพียงแต่เข้าไปใช้บริการผ่านเว็บไซต์เหล่านั้นก็จะสามารถส่งจดหมายได้แล้ว อย่างไรก็ตาม การใช้บริการรับส่งจดหมายของบางหน่วยงานที่มีเว็บไซต์เป็นของตนเอง แล้วให้พนักงานรับส่งจดหมายผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงาน แต่ไม่มีบริการของโปรแกรมรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ในเว็บไซต์ ก็ต้องติดตั้งโปรแกรมรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่คอมพิวเตอร์ของตนโดยเฉพาะ แล้วรับส่งจดหมายโดยผ่านโปรแกรมเหล่านั้น ซึ่งได้แก่ Microsoft Outlook, Microsoft Exchange และ Eudora เป็นต้น

4. โปรแกรมสำหรับการสื่อสารบนอินเตอร์เน็ต เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งการติดต่อสื่อสารอาจเป็นในรูปแบบของการพิมพ์ข้อความคุยโต้ตอบกัน (Chat ) หรือพูดคุยกันโดยผ่านไมโครโฟนที่ติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตก้าวหน้าไปมาก ทำให้สามารถให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตสามารถเห็นหน้าระหว่างพูดคุยกันได้ ซึ่งเรียกว่า Video Conference โปรแกรมที่ใช้สำหรับการสื่อสารเหล่านี้ ได้แก่ Microsoft Chat, ICQ, MSN Messenger,Pirch, Mirc, Yahoo Messenger เป็นต้น4
5. โปรแกรมมัลติมีเดียบนอินเตอร์เน็ต ปัจจุบันการใช้งานบนอินเตอร์เน็ตสามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งภาพและเสียง รวมทั้งภาพเคลื่อนไหว ดังนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์ที่จะใช้งานอินเตอร์เน็ตจึงต้องติดตั้งโปรแกรมประเภทนี้ไว้ เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลประเภทมัลติมิเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปรแกรมเหล่านี้ได้แก่ Real Audio, Real Video, Windows Media Player เป็นต้น

สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)